เมื่อต้องห่างกัน เหล่าทาสแมวหลายคนคงเป็นกังวลว่า น้องแมวเหมียวสุดที่รักจะเหงาหรือเปล่า และจะดูแลตัวเองได้หรือไม่หากต้องอยู่ที่บ้านเพียงลำพังนานหลายวัน บทความนี้จะพาทุกคนไปคลายข้อสงสัย พร้อมหาคำตอบกันว่าแมวอยู่บ้านตัวเดียวได้ไหม น้องจะว้าวุ่นหนักหรือเปล่า ติดตามกันเลย
คนส่วนใหญ่มักคิดว่าแมวเป็นสัตว์ที่มีอิสระและรักสันโดษ จึงรู้สึกว่าแมวจะสามารถอยู่บ้านตัวเดียวได้โดยไม่เหงา แต่แท้จริงแล้วแมวที่ผูกพันกับเจ้าของ ย่อมรู้สึกปลอดภัยและอุ่นใจเมื่อมีเจ้าของอยู่ใกล้ ๆ และอาจเกิดความเครียดได้หากเจ้าของไม่อยู่บ้านนาน ๆ ทำให้น้องเหมียวต้องหาทางระบายด้วยการเล่นซน หาทางสนุกด้วยตัวเองในบ้าน จนอาจทำให้เกิดปัญหาตามมาได้
ตามปกติแล้ว ระยะเวลา 8-12 ชั่วโมง จะเป็นเวลาที่เหมาะสมที่น้องแมวจะสามารถอยู่ตัวเดียวได้ แต่แมวแต่ละตัวจะแตกต่างกันไป โดยเหล่าทาสแมวอาจสังเกตถึงความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น หากน้องแมวเกิดความเครียดสะสมจากการที่ต้องอยู่ตัวเดียวนาน ๆ อาจแสดงพฤติกรรมเหล่านี้ให้เห็น เช่น
หากรู้ตัวว่ามีเหตุจำเป็นที่ต้องปล่อยให้น้องแมวอยู่บ้านตัวเดียวเป็นประจำ สิ่งที่ควรทำคือการเริ่มฝึกให้แมวคุ้นเคยกับการอยู่ตัวเดียวทีละน้อย โดยเฉพาะแมวที่ติดคนมาก หรือลูกแมวตัวน้อย การที่เจ้าของหายไปทันทีหลายชั่วโมงอาจทำให้น้องเหมียวตกใจจนเกิดความเครียดได้ ดังนั้น การเตรียมความพร้อมทีละนิด จะช่วยคลายความเครียดให้กับน้อง ๆ หากเจ้าของหายตัวไปแบบไม่ทันตั้งตัว โดยอาจเริ่มจากการออกไปข้างนอกวันละ 15-30 นาที แล้วเริ่มขยับเป็นหลักชั่วโมง จนถึงหลายชั่วโมงตามมา เพื่อลดความเครียด ให้แมวได้ค่อย ๆ ปรับตัว และเรียนรู้ว่าแม้จะหายไปนานหลายชั่วโมง แต่คุณก็จะกลับมาอย่างแน่นอน
ไม่ต่างจากคน สาเหตุของความเครียดจากการอยู่ตัวเดียวของน้องแมว คือการต้องเผชิญกับความเบื่อหน่ายและไม่มีอะไรทำ เหล่าทาสจึงควรจัดเตรียมของเล่นหลากหลายประเภทเอาไว้ให้พร้อม ไม่ว่าจะเป็น หนูยาง ลูกบอล ที่ลับเล็บ ของเล่นที่มีเสียง หรือของเล่นที่ใส่อาหารไว้ด้านใน และนำไปวางตามบริเวณต่าง ๆ ของบ้าน ก็จะช่วยคลายความเบื่อหน่าย ทำให้น้องแมวได้เพลิดเพลินกับของเล่นในทุกมุมโดยไม่รู้สึกเหงา แต่มีข้อควรระวังคือ ไม่ควรทิ้งของเล่นที่มีเชือกยาวเอาไว้ เพราะอาจเสี่ยงต่อการที่น้องเหมียวจะเล่นซนจนติดคอ หรือพันตัวโดยไม่มีคนดูแลได้
เมื่อต้องออกไปข้างนอกเป็นเวลานาน หลายคนอาจกังวลว่าน้องแมวจะอยู่ดีกินดี หรือมีอาหารเพียงพอหรือไม่ จนทำให้เตรียมอาหารไว้จนเกินพอดี แต่ทางที่ดีที่สุดคือ เหล่าทาสแมวควรจัดเตรียมอาหารในปริมาณที่เพียงพอกับระยะเวลาที่เราไม่อยู่บ้าน โดยไม่ควรเทอาหารทั้งหมดใส่ไว้ที่เดียว เพราะอาจทำให้น้องแมวรู้สึกว่า นี่คืออาหารสำหรับหนึ่งมื้อและกินทั้งหมดในครั้งเดียว สำหรับใครที่ไม่มีเครื่องให้อาหารอัตโนมัติ สิ่งที่สามารถทำได้ก็คือ การวางชามอาหารและน้ำไว้ในหลาย ๆ จุดของบ้าน เพราะเมื่อน้องแมวหิวหรือกระหายน้ำ น้องแมวยังจะได้สนุกไปกับการค้นหาขนมตามพื้นที่ต่าง ๆ อีกด้วย
เป็นธรรมดาของเหล่าทาส ที่จะคิดถึงน้องแมวเมื่อต้องห่างกัน การติดตั้งกล้องวงจรปิดที่สามารถส่งเสียงทักทายได้ ก็จะช่วยให้น้องแมวรู้สึกอุ่นใจ เมื่อได้ยินเสียงของเหล่าเจ้าของ แถมกล้องบางประเภทยังสามารถตรวจเช็กความผิดปกติที่เกิดขึ้นในระหว่างที่เราไม่อยู่บ้าน ทำให้สามารถหาทางช่วยเหลือได้ทันหากมีเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันเกิดขึ้น
‘เซฟโซน’ หรือพื้นที่ปลอดภัย คือสิ่งสำคัญของทั้งคนและสัตว์ โดยเฉพาะกับน้องแมวที่ขี้กังวล การมีมุมสงบให้น้องรู้สึกสบายใจและได้ผ่อนคลาย จะช่วยให้น้องแมวไม่รู้สึกเครียดจนเกินไป โดยทาสแมวอาจเตรียมมุมสงบ ๆ เอาไว้สักแห่ง ไม่ว่าจะเป็นชั้นวางของเพื่อให้น้องได้ปีนป่ายไปนั่งพักผ่อน ชมวิวบนพื้นที่สูง หรือกล่องกระดาษขนาดกำลังพอดีให้น้องแมวได้ไปซุกตัวนอนก็ช่วยได้เช่นกัน
อ่านมาถึงตรงนี้ เหล่าทาสแมวคงได้รู้แล้วว่า “แมวอยู่บ้านตัวเดียวได้ไหม” ซึ่งคำตอบคือได้ หากมีการจัดเตรียมสถานที่ให้พร้อม แต่อย่างไรก็ตาม การรับมือกับน้องแมวที่ต้องอยู่บ้านตัวเดียวก็ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะแมวแต่ละตัวต้องการการดูแลใส่ใจที่แตกต่างกัน หากใครที่ไม่มีเวลาในการติดตามและดูแลน้องแมวในช่วงเวลาที่ต้องห่างไกล ขอแนะนำบริการรับฝากแมวที่ PETClub โรงแรมแมวในราคาเริ่มต้นเพียง 450 บาท ที่พร้อมดูแลสัตว์เลี้ยงแสนรักของคุณด้วยพนักงานมืออาชีพที่ผ่านการฝึกอบรมมาอย่างเข้มงวด ในห้องพักเย็นสบาย มีอาหารและน้ำเพียงพอ พร้อมพาเล่นลดความเครียดวันละ 3 เวลาใน Indoor Playground อีกทั้งยังสามารถติดตามการอัปเดตรูปถ่ายและคลิปได้ทุกวัน เช้าและเย็น ผ่านทาง LINE ของสาขา ด้วยความมุ่งมั่นและทุ่มเทในการดูแลสัตว์เลี้ยงของคุณอย่างดีที่สุด สนใจติดต่อเลย
ข้อมูลอ้างอิง:
