น้องแมวฉี่ไม่ออก ทำอย่างไร อาการแบบนี้ คืออะไรกันนะ?
หากทาสแมวคนไหนที่สังเกตว่า อยู่ ๆ น้องแมวก็มีอาการปัสสาวะไม่ออก หรือสีของปัสสาวะเปลี่ยนไป ทั้ง ๆ ที่น้องแมวก็ดูปกติดี อาการนี้อาจเป็นสัญญาณเตือนว่า น้องแมวกำลังป่วยเป็นนิ่ว
ชวนรู้ทันอาการแมวเป็นนิ่ว พร้อมแนวทางการรักษา และวิธีดูแลน้องแมวที่ถูกต้องหลังเข้ารับการรักษา เพื่อฟื้นฟูสุขภาพของน้องให้กลับมาแข็งแรงและอยู่กับเราไปได้อีกยาวนาน
ภาวะนิ่วในแมว คือ การสะสมของตะกอนและแร่ธาตุ จนเกิดเป็นก้อนนิ่วในแมว สามารถเกิดได้ทั้งในไต ท่อไต กระเพาะปัสสาวะ และท่อปัสสาวะ โดยอาการแมวเป็นนิ่วสามารถเกิดขึ้นได้กับน้องแมวทุกเพศ ทุกวัย ทุกสายพันธุ์ เจ้าของจึงต้องหมั่นสังเกตความผิดปกติ เพื่อให้สามารถพาน้องเข้ารับการรักษาได้อย่างรวดเร็ว
โดยปกติแล้ว ธรรมชาติน้องแมวจะเป็นสัตว์ที่กินน้ำน้อย หากน้องแมวได้รับน้ำไม่เพียงพอ จะทำให้ปัสสาวะข้น จนส่งผลให้แมวเป็นนิ่วได้ง่ายขึ้น ซึ่งโดยปกติแล้ว น้องแมวควรได้รับน้ำประมาณ 40-60 มิลลิลิตร ต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม เช่น หากน้องแมวหนัก 4 กิโลกรัม ควรกินน้ำให้ได้ประมาณ 160-180 มิลลิลิตรต่อวัน
อาหารแมวบางชนิด สามารถทำให้เกิดแร่ธาตุและตะกอนตกค้างอยู่ในร่างกาย และสะสมอยู่ในกระเพาะปัสสาวะ เช่น อาหารที่มีปริมาณแคลเซียม ฟอสฟอรัส อ็อกซาเลท แมกนีเซียม โซเดียม หรือโพแทสเซียมสูง ซึ่งแร่ธาตุเหล่านี้พบได้มากในขนมแมวเลียและอาหารคน หากน้องแมวได้รับมากเกินไป ก็จะยิ่งทำให้มีความเสี่ยงต่อการเป็นนิ่วมากขึ้น
น้องแมวเป็นสัตว์ที่รักสะอาดสูง และมักจะไม่ยอมเข้าห้องน้ำเลย หากพบว่าห้องน้ำไม่ได้รับการทำความสะอาด ซึ่งหากน้องแมวอั้นปัสสาวะนาน ๆ ก็จะทำให้แมวเป็นนิ่วได้
หากน้องแมวติดเชื้อในกระเพาะปัสสาวะ จะทำให้ค่า pH ในปัสสาวะเปลี่ยนแปลงไป และเกิดการสะสมของตะกอนต่าง ๆ จนทำให้เกิดนิ่วในแมวได้
แมวบางสายพันธุ์ เป็นแมวที่มีโอกาสเกิดนิ่วได้สูง โดยเฉพาะถ้าเจ้าของไม่ได้มีการดูแลเรื่องอาหารและน้ำอย่างเหมาะสม เช่น แมวไทย, Maine Coon, British Shorthair, Scottish fold และ Persian
เมื่อเจ้าของสังเกตถึงอาการแมวเป็นนิ่ว สิ่งแรกที่ต้องทำก็คือการพาน้อง ๆ ไปเข้ารับการตรวจวินิจฉัยโดยเร็วที่สุด โดยสัตวแพทย์จะเริ่มจากการตรวจร่างกายพื้นฐาน การคลำหน้าท้องเพื่อหาก้อนผิดปกติ จากนั้นจะทำการตรวจเลือด ตรวจปัสสาวะ และอัลตราซาวนด์เพื่อระบุตำแหน่งของนิ่ว หากพบว่าน้องแมวมีก้อนนิ่วในกระเพาะปัสสาวะ สัตวแพทย์จะวางแผนการรักษาในลำดับต่อไป ซึ่งการรักษาแมวเป็นนิ่วสามารถทำได้ด้วยกัน 2 วิธี ขึ้นอยู่กับระดับความรุนแรงของอาการ คือ การให้ยาสลายนิ่ว และ การผ่าตัด
การให้ยาสลายนิ่ว คือการให้ยาในรูปแบบของอาหาร ที่มีคุณสมบัติละลายนิ่วในกระเพาะปัสสาวะ
หากตรวจวินิจฉัยแล้วพบว่า ก้อนนิ่วเข้าไปอุดตันทางเดินปัสสาวะ หรือ ก้อนนิ่วก่อให้เกิดการอักเสบรุนแรง จนไม่สามารถตอบสนองกับยาสลายนิ่วได้ สัตวแพทย์จะทำการผ่าตัด เพื่อนำเอานิ่วในกระเพาะปัสสาวะและท่อปัสสาวะออก
หลังจากน้องแมวได้รับการรักษาโรคนิ่วแล้ว เจ้าของก็ต้องหันมาใส่ใจกับการดูแลสุขภาพของน้อง ๆ ให้มากขึ้น ด้วยการปรับเปลี่ยนอาหารให้เหมาะสม ซึ่งหลายคนอาจสงสัยว่า แมวเป็นนิ่วสามารถกินอะไรได้บ้าง? คำตอบก็คือ ควรให้น้อง ๆ กินอาหารสูตรสำหรับแมวเป็นนิ่วโดยเฉพาะ เพื่อป้องกันการสะสมของแร่ธาตุและสารต่าง ๆ ที่อาจทำให้น้องกลับมาเป็นนิ่วอีกครั้ง
นอกจากการปรับอาหารให้เหมาะสมแล้ว อีกหนึ่งเรื่องที่สำคัญไม่แพ้กัน ก็คือการดูแลให้น้อง ๆ ได้กินน้ำอย่างเพียงพอ ซึ่งหากสังเกตว่าน้อง ๆ ไม่ชอบดื่มน้ำ ให้เจ้าของลองเปลี่ยนจากการใส่น้ำในถ้วย เป็นการใช้น้ำพุแมว เพื่อดึงดูดความสนใจให้น้อง ๆ อยากดื่มมากขึ้น รวมถึงการหมั่นตรวจเช็กความสะอาดของน้ำอย่างสม่ำเสมอ ป้องกันไม่ให้มีสิ่งปนเปื้อน
อาการนิ่วในแมว หากไม่ได้รับการดูแลที่ดี อาจมีโอกาสที่น้อง ๆ จะกลับมาเป็นซ้ำได้ ดังนั้นเจ้าของจึงต้องหมั่นพาน้อง ๆ ไปตรวจสุขภาพอย่างสม่ำเสมอ เพื่อติดตามอาการ และช่วยให้สามารถรักษาภาวะแทรกซ้อนต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้นได้ เพื่อให้น้อง ๆ มีสุขภาพที่แข็งแรงอยู่เสมอ
เลือกซื้ออาหารแมวเกรดพรีเมียมได้ที่ PETClub อาณาจักรสัตว์เลี้ยงที่จำหน่ายทั้งอาหารและอุปกรณ์สำหรับสัตว์เลี้ยงทุกประเภท มีอาหารรักษาโรคนิ่วในแมว เพื่อช่วยลดการสะสมของแร่ธาตุและตะกอนต่าง ๆ ที่อาจก่อให้เกิดนิ่ว เพื่อช่วยลดความเสี่ยงและช่วยให้น้องมีสุขภาพที่แข็งแรง เลือกซื้อสะดวกทางออนไลน์ พร้อมบริการจัดส่งทั่วประเทศ
ดูอาหารแมวเพิ่มเติม “คลิก”
ข้อมูลอ้างอิง:
