สำหรับใครที่เป็นทาสแมวมือใหม่ และกำลังหาข้อมูลเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการเลี้ยงน้องแมว น่าจะเคยได้ยินเรื่องของ การเลี้ยงแมวระบบปิด VS ระบบเปิด กันมาบ้าง หากใครที่อยากรู้ว่า การเลี้ยงแมวทั้งสองวิธีนี้ต่างกันอย่างไร แบบไหนดีกับน้องแมวมากกว่ากัน บทความนี้มีคำตอบ
การเลี้ยงแมวระบบปิด คือ การเลี้ยงน้องแมวในพื้นที่ปิด เช่น ภายในบ้าน หรือ จัดให้น้องอยู่เฉพาะในบริเวณที่กำหนดไว้ โดยไม่ปล่อยให้น้อง ๆ ออกไปผจญภัยนอกบ้านหรือออกไปนอนนอกบ้านในตอนกลางคืน ซึ่งน้องแมวที่เลี้ยงระบบปิดนั้น อาจจะติดนิสัยชอบนอนหลับพักผ่อนในระหว่างวันเป็นพิเศษ และมักจะตื่นขึ้นมาชวนทาสเล่นอย่างเมามันในตอนกลางคืน
การเลี้ยงแมวระบบเปิด คือ การเลี้ยงน้องแมวแบบที่ปล่อยให้น้อง ๆ ออกไปใช้ชีวิตนอกบ้านได้อย่างอิสระ และรอให้น้องกลับบ้านในเวลาที่น้อง ๆ ต้องการ ซึ่งบางครั้งน้อง ๆ อาจเที่ยวเพลินจนลืมกลับบ้าน หรือไปแอบนอนค้างอยู่บ้านคนอื่น ๆ หากเป็นบ้านใกล้เคียงที่รู้จักกัน หรือเป็นเพื่อนบ้านที่รักสัตว์เหมือน ๆ กับเรา ก็อาจไม่มีปัญหาอะไร แต่หากน้องแมวเผลอเดินเข้าไปในบ้านที่ไม่ได้ชอบสัตว์ ก็มีโอกาสที่จะเกิดปัญหาตามมาได้
หากทาสแมวมือใหม่คนไหนที่ยังนึกภาพไม่ออกว่า การเลี้ยงแมวระบบปิด VS ระบบเปิด ทั้งสองแบบต่างกันอย่างไร และแบบไหนถึงจะดีต่อน้องแมวมากกว่า เราสรุปความแตกต่างของการเลี้ยงแมวระบบปิดและระบบเปิดไว้ให้แล้ว
การเลี้ยงแมวระบบปิดโดยให้น้อง ๆ อยู่ภายในบ้าน หรือแบ่งพื้นที่ในรั้วบ้านให้น้องได้ออกไปนั่งชมวิวได้ตามใจ แบบไม่ต้องออกไปข้างนอก จะช่วยลดโอกาสที่น้องแมวจะได้รับอันตราย ทั้งจากการต่อสู้กับแมวเจ้าถิ่น การถูกทำร้ายจากผู้ไม่หวังดี ไปจนถึงกรณีร้ายแรงอย่างการที่น้องสูญหาย ไม่ว่าจะเกิดจากการที่น้องกลับบ้านเองไม่ถูก เผลอติดรถคันอื่นไปโดยไม่ตั้งใจ หรือแม้กระทั่งถูกลักพาตัว
นอกจากจะช่วยลดโอกาสเกิดอันตรายแล้ว การเลี้ยงแมวระบบปิด ยังช่วยลดโอกาสเกิดโรคติดต่อ จากการที่น้อง ๆ ไปคลุกคลีกับสัตว์ต่าง ๆ นอกบ้าน หรือไปรับเชื้อโรคจากการสัมผัสสิ่งต่าง ๆ ซึ่งนอกจากจะทำให้น้องแมวล้มป่วยแล้ว คนในบ้านก็อาจรับเชื้อโรคและแบคทีเรียเข้าสู่ร่างกายได้โดยไม่รู้ตัวอีกด้วย
เมื่อน้อง ๆ ได้อาศัยอยู่ในรั้วบ้าน ได้นอนหลับพักผ่อนอย่างเต็มที่ ไม่ต้องออกไปต่อสู้กับใคร แถมยังได้กินอาหารอร่อย ๆ ทุกวัน น้องแมวของเราก็จะมีสุขภาพที่ดี และมีอายุยืนยาว โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ถ้าทาสปรนเปรอน้อง ๆ ด้วยของเล่นที่ชอบ ที่นอนนุ่ม ๆ ของว่างที่มีประโยชน์ และมีเวลาเล่นกับน้อง ๆ ในระหว่างวัน น้องแมวก็จะมีสุขภาพจิตที่ดียิ่งขึ้น
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ทาสต้องระวังในการเลี้ยงแมวระบบปิด ก็คือเรื่องของการให้อาหาร เพราะน้อง ๆ ที่อยู่ในบ้าน มักใช้เวลาไปกับการนอนตลอดทั้งวัน และไม่ค่อยได้ขยับร่างกาย เหล่าทาสจึงต้องใส่ใจกับการเลือกสูตรอาหารที่เหมาะกับการเลี้ยงระบบปิด รวมถึงจำกัดการให้ขนมในปริมาณที่พอเหมาะ และหาเวลาเล่นกับน้องบ่อย ๆ เพื่อให้น้องแมวได้ออกกำลังกาย เพื่อช่วยป้องกันไม่ให้น้อง ๆ มีน้ำหนักเกินเกณฑ์
เพราะน้องแมวเป็นสัตว์ที่รักการผจญภัย และมักจะชอบเดินทางไปสำรวจพื้นที่ใหม่ ๆ ซึ่งเราไม่อาจรู้ได้ว่า การเลี้ยงแมวระบบเปิดที่ปล่อยให้น้อง ๆ ออกไปเผชิญโลกกว้างได้ตามใจ จะทำให้น้องแมวของเราไปเจอกับอะไรบ้าง บางครั้งอาจไปเจอกับแมวขาใหญ่ประจำซอย หรือไปเจอกับเจ้าหมาที่ไม่ค่อยถูกชะตากับแมว จนเกิดการต่อสู้กันอยู่บ่อย ๆ แถมยังมีโอกาสที่คนแปลกหน้าจะลักพาตัวน้องแมวของเราไปได้ทุกเมื่อ ที่แย่กว่านั้นก็คือ หากน้องแมวถูกทำร้ายจนได้รับบาดเจ็บหนัก หรือเจออุบัติเหตุบนท้องถนน ก็อาจถึงขั้นเสียชีวิตได้เลยทีเดียว
อย่างที่บอกไปว่า น้องแมวรักการสำรวจสิ่งใหม่ ๆ ถ้าเจออะไรก็อดที่จะเข้าไปใกล้ ๆ ไม่ได้ แถมบางครั้งยังชอบไปชิมอะไรแปลก ๆ อย่างอาหารที่อยู่ในถังขยะ หรือแอ่งน้ำขังตามพื้น ทำให้น้อง ๆ เสี่ยงต่อการเกิดโรคได้ง่าย และมีโอกาสที่จะนำโรคมาแพร่กระจายสู่แมวตัวอื่น ๆ ในบ้าน หรือแม้กระทั่งส่งต่อมาถึงคนเลี้ยง นอกจากจะทำให้น้อง ๆ มีอายุขัยที่สั้นแล้ว ทาสยังต้องแบกรับค่าใช้จ่ายในการดูแลรักษาที่มากขึ้นอีกด้วย
จากความแตกต่างของการเลี้ยงแมวระบบปิด VS ระบบเปิดที่เราสรุปมาฝากกัน จะเห็นได้ว่า การเลี้ยงแมวระบบปิดนั้น เป็นทางเลือกที่ดีต่อสุขภาพของน้องแมว และยังช่วยให้เจ้าของอุ่นใจ เพราะไม่ต้องห่วงว่าน้องจะไปอยู่ที่ไหน หรือไปเจออะไรมาบ้าง หากใครที่กำลังเตรียมตัวสำหรับการเลี้ยงน้องแมว สามารถแวะมาเลือกซื้อสินค้าและอาหารสำหรับน้อง ๆ ได้ที่ PETClub อาณาจักรสินค้าสัตว์เลี้ยงที่จำหน่ายทั้งอาหารและอุปกรณ์สำหรับสัตว์เลี้ยงทุกประเภท พร้อมบริการรับฝากแมวที่จะดูแลสัตว์เลี้ยงแสนรักของคุณอย่างใส่ใจ โดยผู้เชี่ยวชาญที่เข้าใจน้องแมวอย่างแท้จริง
ข้อมูลอ้างอิง: